ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่นเป็นวิธีเสริมความงามที่มาแรงในปัจจุบัน

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นนวัตกรรมที่นิยมใช้สำหรับลดริ้วรอย ยกกระชับหน้า และลำคอ รวมถึงลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ เช่น น่องและกราม การฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่นเป็นวิธีเสริมความงามที่มาแรงและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง อาจจะเพราะโบท็อกซ์เป็นวิธีที่ช่วยตอบโจทย์ผู้ที่รักสวยรักงามแบบทันใจเพราะเห็นผลภายใน 3-7 วัน จริงๆ แล้วโบท็อก Botox คืออะไร Botulinum toxin A เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum)” ซึ่งเชื้อโรคนี้หากได้รับมากเกินไปจะทำให้อาหารเป็นพิษหรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยๆ อย่างพอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวอันเป็นผลดีกับวงการแพทย์ ซึ่งเริ่มแรกได้นำสารโบท็อกซ์นี้มาใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข และพัฒนาต่อมาใช้ในวงการเสริมความงาม ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ ลดลงและทำให้ผิวหน้าดูเด็ก กระชับขึ้น

ฉีดโบท็อกทำให้กล้ามเนื้อตายจริงหรือ วิธีการทำงานของ Botox เป็นอย่างไร เมื่อแพทย์ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่นไปในส่วนต่างๆ ที่ต้องการรักษาแล้ว Botox จะเข้าไปจับที่ปลายประสาททำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือกล่าวได้ว่าการฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่นเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลงชั่วคราว ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดได้ภายใน 2–3 วัน สำหรับริ้วรอยตื้นๆ และรอยลึกจะเริ่มเห็นผลประมาณ 7–14 วัน เมื่อฉีดไปแล้วยังสามารถแสดงอารมณ์ได้ตามปกติ เพียงแค่ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์จะหายไป หลังการฉีดผลลัพท์จะอยู่ได้นาน 6–8 เดือน หลังจากนั้นริ้วรอยจะกลับมาเหมือนเดิม

โบท็อก Botox เหมาะกับใครบ้าง โบท็อกซ์ของอเมริกาสามารเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ การฉีด Botox จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่นหน้าผาก รอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตา ปาก และยังสามารถฉีดเพื่อยกคิ้วขึ้น ทำให้ตาดูโตขึ้น แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว กระชับผิวหนัง รวมทั้งลดเหงื่อบริเวณรักแร้ได้อีกด้วย

หลังจากฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่นอาจมีอาการปวดศีรษะหรือปวดในบริเวณที่ฉีด แต่ก็จะหายไปเองในเวลาไม่นาน บางรายอาจจะเคี้ยวอาหารได้ยากขึ้นโดยเฉพาะอาหารที่แข็งและเหนียวเพราะการขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดมีความหนืดมากขึ้น ทั้งนี้การฉีดโบท็อกจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฉีดผิดตำแหน่งอาจเกิดผลข้างเคียงอย่างตาตก ปากเบี้ยวยิ้มไม่ได้ หรือหน้าไม่เท่ากัน